ชุมชนสตูลเก็บกาบหมากข้างเริน ทำกระเป๋าราคาหลักพันบาท เสริมรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนที่บ้านทุ่งพัก ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล พื้นที่นี้เต็มไปด้วย หมาก..เป็นพืชตระกูลปาล์มซึ่งผลมีรสชาติฝาดใช้เคี้ยวกับปูนและใบพลู ชาวสวนมักจะปลูกตามท้องร่องสลับกับต้นไม้ทั่วไป โดยยอดหมากจะมีกาบใบหุ้มเมื่อกาบแก่ สีเหลืองถึงน้ำตาลแก่จะร่วงหล่นเรียกว่า กาบหมาก เด็ก ๆ จะนำมาใช้เป็นรถลากเล่น และใช้เป็นภาชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ ในครัวเรือนมาวันนี้ดร.วรรณดี สุธาพาณิชย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนสตูล สังกัดสถาบันวิทยาลัย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้รับการประสานจากชุมชนในการเข้ามาช่วยทำวิจัย และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ชุมชน ด้วยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดการความรู้และพัฒนาผลิตภัณฑ์ กาบหมาก ภายใต้การแปรรูป ผลิตภัณฑ์ชุมชนเชิงระบบโดยใช้ทุนชุมชน เพื่อส่งเสริมการเที่ยวโดยชุมชนพื้นที่อุทยานธรณีโลกสตูลกาบหมาก แก่และร่วงหล่นอย่างไร้คุณค่าและมีมากมายในชุมชนบ้านทุ่งพัก ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลงจังหวัดสตูลขณะนี้ถูกชุมชนหยิบมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มคุณค่าและมูลค่าให้วัตถุดิบที่มีอยู่อย่างมากมายในชุมชนเปลี่ยนมาเป็นรายได้หล่อเลี้ยงคนในชุมชนในรูปแบบของกระเป๋า หลากหลายรูปแบบ ที่มีการนำมาผสมผสานกับผ้าพื้นเมืองที่ตกแต่งอย่างสวยงาม โดยเชิญดร.สุภา จุฬคุปต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ 081-441-5506 มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ในครั้งนี้โดยชาวบ้านชายและหญิงที่เข้าอบรมบอกว่า ไม่คิดว่ากาบหมาก ที่ไร้ค่าไร้ราคาจะทำผลิตภัณฑ์ได้ออกมาสวยงามและสร้างมูลค่าได้ถึงชิ้นละ 1 พันบาทเลยทีเดียว โดยชาวบ้านเชื่อว่าหลังเสร็จสิ้นทำสวนยางพาราก็ตั้งใจจะนั่งสานกระเป๋า และตะกร้าจากกาบหมาก รวมทั้งภาชนะที่เป็นบรรจุภัณฑ์จากกาบหมากไว้ใช้เองเพื่อลดภาวะโลกร้อนอีกด้วยก๊ะรอม หรือนางตีแบด๊ะ แก้วสลัม อายุ 47 ปี และนางยามินล๊ะ แนะสกุล อายุ31 ปี แม่บ้านที่เข้าอบรมในครั้งนี้บอกว่า ไม่คิดเลยว่ากาบหมากจะสร้างมูลค่าได้มากถึงหลักพันบาท จากที่เป็นสิ่งทิ้งขว้างภายในชุมชนที่ไร้ค่าและราคาหลังจากนี้จะฝึกฝนฝีมือและทำผลิตภัณฑ์จากกาบหมากที่เรียนรู้เพื่อเป็นรายได้เสริมนายอุใบ หมัดหมุด อาจารย์ศูนย์วิจัยและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต วิทยาลัยชุมชนสตูล ยอมรับว่าพื้นที่แห่งนี้มีความสมบูรณ์และมีวัตถุดิบอย่างต้นหมากและกาบหมากมายมาย หลังมีการทำวิจัย ดำเนินโครงการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำวิเคราะห์พบว่า กาบหมาก เป็นต้นทุนทางธรรมชาติในชุมชน ที่สามารถพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อความยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิต ลุงอาทิตย์ นายคมเดช ศรีประสม อายุ 60 ปี แกนนำชุมชนเปิดเผยว่า สิ่งที่คาดหวังหลังการอบรม นอกจากชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีจากการทำผลิตภัณฑ์จากกาบหมากเป็นกระเป๋าและสิ่งของเครื่องใช้แล้ว สิ่งหนึ่งคืออยากเห็นมีการใช้กาบหมาก แทนการใช้โฟม หรือสิ่งของทำลายสิ่งแวดล้อมหรือธรรมชาติให้เยอะมากยิ่งขึ้น